IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
เต็มอิ่มกับอาหารไทยทั่วทุกสารทิศ โอทอปคุณภาพดีจากลุ่มน้ำโขงและโอทอปไทย การออกร้านจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นพัทยา บูธนิทรรศการนวัตกรรมอาหารอนาคต กิจกรรมเสวนาให้ความรู้ โอกาสเจรจาธุรกิจผู้ซื้อพบผู้ขาย และความบันเทิงมากมาย เปิดศักยภาพมุมมองใหม่จังหวัดชลบุรีประตูการค้าภาคตะวันออก คาดคนร่วมงานกว่า 30,000 คน สร้างเงินสะพัดในงานกว่า 10 ล้านบาท ก่อให้เกิดการเจรจาธุรกิจมากถึง 100 ล้านบาท
ดร.สมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึง ความสำคัญของภาคธุรกิจรายย่อย ว่า
ในวันนี้คงไม่มีใครปฏิเสธว่าผู้ประกอบการอุตสาหกรรมรายย่อยนั้นมีบทบาทสำคัญต่อประเทศไทยอย่างยิ่ง ทั้งในด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม และความมั่นคง ภาครัฐจึงมุ่งมั่นในการส่งเสริมและพัฒนาขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการกลุ่มนี้
กระทรวงอุตสาหกรรม ได้มีโอกาสเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จของงาน "Thai Taste Expo 2018 : สุดยอดศาสตร์ ศิลป์ แห่งอาหารและสินค้าไทย" ที่เกิดจากความร่วมแรงร่วมใจของหน่วยงานหลายภาคส่วน ได้แก่ กระทรวงอุตสาหกรรม สถาบันอาหาร กรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ธนาคารไทยพาณิชย์ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม ธนาคารกรุงเทพ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) รวมทั้งสวนนงนุช และเมืองพัทยา ในการบูรณาการการทำงาน เพื่อจัดกิจกรรมผลักดันให้เกิดการกระจายรายได้ สร้างช่องทางการค้าใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย รวมทั้งกลุ่ม SMEs กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และ OTOP ไทย เพื่อให้เกิดการต่อยอดขยายตลาด ที่สำคัญยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเชิงพื้นที่ของจังหวัดชลบุรี ในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจ และเป็นประตูการค้าของประเทศไทยไปสู่ภูมิภาค เป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม รวมทั้งเศรษฐกิจฐานรากของประเทศไทยให้เติบโตอย่างมั่นคง
ด้าน นายยงวุฒิ เสาวพฤกษ์ ผู้อำนวยการ สถาบันอาหาร กล่าวถึงแนวคิดในการจัดงาน Thai Taste Expo 2018 : สุดยอดศาสตร์ ศิลป์ แห่งอาหารและสินค้าไทย ว่า "จากนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้เกิดการกระจายรายได้ สร้างช่องทางการค้าใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการทั่วประเทศ สถาบันอาหารจึงมีแนวคิดในการจัดงานครั้งนี้ขึ้น โดยงานนี้มีผู้ประกอบการทั่วประเทศเข้าร่วมออกบูธกว่า 500 บูธ บนพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร
ประกอบด้วย 5 โซน ได้แก่ บูธนิทรรศการนวัตกรรมด้านอาหารและวิชาการ บูธผู้ประกอบการโครงการอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง บูธผู้ประกอบการโครงการส่งเสริมมาตรฐานอาหารไทย Authentic บูธผู้ประกอบการ SMEs ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค และเวทีกิจกรรมเสวนา และความบันเทิงต่างๆ ส่วนพื้นที่ด้านหน้าจัดแสดงสินค้าภายใต้โครงการเพิ่มศักยภาพการค้าการลงทุนตามแนวชายแดนและเชื่อมโยงระเบียงเศรษฐกิจอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง จำนวน 750 ผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงสินค้าของผู้สนับสนุน และการออกร้านของหน่วยงานท้องถิ่นเมืองพัทยาอีกด้วย
ภายในงานท่านจะได้พบสินค้าของดีใน 20 จังหวัดภาคอีสานของไทย ที่เรานำมาจัดแสดงไว้ในที่เดียวกัน โดยสินค้าแต่ละจังหวัดก็มีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นแตกต่างกันไป อีกส่วนหนึ่งท่านยังจะได้สัมผัสกับสินค้าของกลุ่มผู้ผลิตขนาดกลางและขนาดย่อมที่มาจากทั่วประเทศ โดยสินค้าที่นำมาแสดงส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม ที่ได้รับการพัฒนาศักยภาพทั้งในด้านการผลิต และยกระดับมาตรฐาน ซึ่งทางสถาบันอาหารได้ดำเนินงานร่วมกับทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เรียกได้ว่างานนี้คับคั่งไปด้วยสินค้าคุณภาพให้ได้เลือกชมเลือกซื้อมากมาย
Thai Taste Expo 2018 : สุดยอดศาสตร์ ศิลป์ แห่งอาหารและสินค้าไทย จัดที่ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้าไนซ์ (NICE) สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งจะเป็นการเปิดศักยภาพและมุมมองใหม่ของจังหวัดชลบุรี โดยนายกัมพล ตันสัจจา ผู้อำนวยการสวนนงนุช กล่าวว่า ทางสวนนงนุชให้การสนับสนุนพื้นที่ในการจัดงานเพื่อเป็นการนำร่องให้เกิดการค้าการลงทุนและเชื่อมโยงเศรษฐกิจสู่ภาคตะวันออก รวมทั้งในงานได้จัดรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของสวนนงนุช ที่ทั้งผู้แสดงสินค้าและผู้เข้าชมงานจะได้เจรจาซื้อขายท่ามกลางบรรยากาศที่แวดล้อมไปด้วยธรรมชาติอันน่ารื่นรมย์
จังหวัดชลบุรี ประตูการค้าภาคตะวันออก ถูกจัดให้เป็นจังหวัดที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวมากที่สุดอันดับ 2 ของประเทศรองจากกรุงเทพฯ โดยปี 2560 ที่ผ่านมา จังหวัดชลบุรีมีนักท่องเที่ยวสูงถึง 16 ล้านคน หากสามารถดึงนักท่องเที่ยวดังกล่าวเข้ามาเยี่ยมชมงานได้ ก็จะเป็นการสร้างการรับรู้ เผยแพร่ประสบการณ์ไปสู่ตลาดโลกได้อีกทางหนึ่ง โดยคาดการณ์ว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีผู้เข้าร่วมชมงานกว่า 30,000 คน เป็นนักท่องเที่ยว 50% และคนในพื้นที่ 50% สามารถสร้างรายได้ในการจำหน่ายสินค้าภายในงานประมาณ 10 ล้านบาท กระตุ้นให้เกิดการเจรจาธุรกิจไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท ดังนั้นการจัดงานครั้งนี้จึงได้รับการสนับสนุนอย่างดียิ่งจากจังหวัดชลบุรี เมืองพัทยา และสำนักส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองพัทยา ในการผลักดันส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยวภาคตะวันออกให้สร้างเม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคให้เติบโตอย่างเข้มแข็ง