IM สื่ออุตสาหกรรม เป็นสื่อสร้างสรรค์เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรม มุ่งเน้นนำเสนอข่าวสารด้านบวก ครอบคลุมทุกหมวดหมู่ธุรกิจ ด้วยเจตนารมณ์ที่ต้องการสร้างพื้นที่ให้กลุ่ม SMEs ได้มีที่ยืน ได้มีโอกาสได้ใช้ช่องทางเคียงคู่ไปกับผู้ประกอบการรายใหญ่ เพื่อให้อุตสาหกรรมไทยได้เติบโตไปพร้อมๆ กัน อย่างยั่งยืน
บริษัท สื่ออุตสาหกรรม จำกัด | 02 11 585 22 | an6n@yahoo.com
รายงานข่าวจากหอการค้ารถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น เปิดเผยว่า ยอดขายรถยนต์ช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 2560 ที่ผ่านมาเติบโตขึ้นมาก ขยายตัวราว ๆ 10-15% ส่วนเซ็กเมนต์ที่น่าจับตามองที่สุดคือ อีโคคาร์ เพราะมีการแข่งขันรุนแรง และตลาดมีรถรุ่นใหม่ทยอยลงตลาดต่อเนื่อง โดยยอดขายรวมอีโคคาร์ 9 เดือนมีตัวเลขทั้งสิ้น 104,351 คัน แบ่งเป็นมาสด้า 22,516 คัน, โตโยต้า 25,707 คัน, นิสสัน 23,334 คัน, มิตซูบิชิ 16,140 คัน, ซูซูกิ 14,881 คัน และฮอนด้า 1,773 คัน
เฉพาะเดือนกันยายนถ้าแบ่งตามประเภทซีดานมาสด้า2 ยังครองแชมป์ 1,683 คัน รองลงมาได้แก่โตโยต้า ยาริส เอทีฟ ที่เพิ่งเปิดตัวไม่นาน ด้วยยอดขาย 3,331 คัน โดยยังเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าเป้าที่โตโยต้าตั้งใจจะขายระดับ 4,000 คันต่อเดือน ตามมาด้วยนิสสัน อัลเมร่า 1,271 คัน มิตซูบิชิ แอททราจ 1,190 คัน ซูซูกิ เซียส 1,141 และฮอนด้า บริโอ้ อเมซ 100 คัน ส่วนประเภทแฮตช์แบ็กมาสด้า2 จำนวน 1,235 คัน รองลงมาโตโยต้า ยาริส 1,123 คัน, นิสสันโน๊ต 924 คัน, นิสสัน มาร์ช 582 คัน, มิตซูบิชิ มิราจ 816 คัน, ซูซูกิ สวิฟท์ 700 คัน, ฮอนด้า บริโอ 141 คัน และเซเรลิโอ้ 64 คัน
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ตลาดอีโคคาร์ได้รับความนิยมมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เริ่มเข้าตลาด โดยปี 2553 ปีแรกที่เริ่มทำตลาดขายได้เกือบ 2 หมื่นคัน มีสัดส่วน 6% ของรถยนต์นั่ง ปีที่ 2 ทำได้ 4 หมื่นกว่าคัน มีสัดส่วน 12% ของรถยนต์นั่ง ปีที่ 3 ทำได้ 1.6 แสนคัน มีสัดส่วนเกือบ 25% ของรถยนต์นั่ง ปีที่ 4 ทำได้เกือบ 2 แสนคัน มีสัดส่วน 28% ของรถยนต์นั่ง ปีที่ 5 ทำได้ 1.18 แสนคัน มีสัดส่วน 33% ของรถยนต์นั่ง ปีที่ 6 ทำได้ 1.06 แสนคัน มีสัดส่วน 35% ของรถยนต์นั่ง และปีที่ 8 ทำได้ 1.14 แสนคัน มีสัดส่วน 39% ของรถยนต์นั่ง โดยคาดว่าปีนี้น่าจะทำตัวเลขได้สูงถึง 1.2 แสนคัน มีสัดส่วนมากกว่า 40% ของรถยนต์นั่ง
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า อีโคคาร์ทั้ง 2 รุ่นของโตโยต้าได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้าโตโยต้าทุกคน จนทำให้ยาริส เอทีฟ มียอดจองรวมแล้วกว่า 8,790 คัน และยาริส รุ่นปรับโฉม มียอดจองรวมกว่า 3,000 คัน
ทั้งนี้โตโยต้าได้ประกาศราคาขายมาตรฐานของรถยนต์รุ่นโตโยต้า ยาริส เอทีฟ และยาริส รุ่นปรับโฉมปี 2560 ใหม่ หลังจากประกาศราคาแนะนำพิเศษให้แก่ลูกค้าที่จองและออกรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ตั้งแต่วันเปิดตัวอย่างเป็นทางการจนถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2560 โดยราคาจำหน่ายมาตรฐานของรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นนั้น ยังคงเป็นราคาที่คุ้มค่า ซึ่งลูกค้าชาวไทยสามารถจับจองเป็นเจ้าของ ซึ่งมั่นใจได้ว่า ยาริส เอทีฟ และยาริส รุ่นปรับโฉม เป็นรถที่ดีที่สุดในรถระดับเดียวกันทั้งในเรื่องของราคาและสมรรถนะ โดยปัจจุบันรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น ยังคงมียอดจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทจะเร่งส่งมอบรถให้แก่ลูกค้าโดยเร็วที่สุด”
สำหรับราคาจำหน่ายมาตรฐาน ยาริส เอทีฟ และยาริส รุ่นปรับโฉม ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560 จะมีการปรับขึ้นราคาโดยเฉลี่ย 10,000-16,000 บาท ทุกรุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้โตโยต้าได้ประกาศเป้าหมายรถยนต์ทั้ง 2 รุ่นไว้ โดยยาริสตั้งเป้าไว้ที่ 3,500 คันต่อเดือน และยาริส เอทีฟ ไว้ที่ 4,700 คัน ซึ่งจากตัวเลข ยอดขายทั้ง 2 รุ่นในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ยังไม่เป็นไปตามเป้า ซึ่งผู้บริหารได้มีการเรียกตัวแทนจำหน่ายเข้าหารือและทำเวิร์กช็อปถึงทิศทางการทำตลาดของรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น
“เราเองก็รู้สึกแปลกใจที่ยอดขายไม่เป็นไปตามที่วางไว้ เป็นเรื่องผิดปกติ ทั้ง ๆ ที่มีการแนะนำรุ่นใหม่ เท่าที่ทราบหลายยี่ห้อเตรียมตั้งรับอีโคคาร์จากค่ายโตโยต้ากันเต็มที่ เพราะเกรงทั้งชื่อชั้น ความสดใหม่ และออปชั่นที่เหนือกว่า ยิ่งได้ราคาพิเศษช่วงแนะนำตอนเปิดตัว ยอดขายน่าจะเดินได้ดีกว่านี้ แต่อย่างไรก็ตาม การขยับราคาที่จะเริ่มในเดือนพฤศจิกายนน่าจะกระตุ้นตลาดได้มากขึ้นแน่นอน” แหล่งข่าวตัวแทนจำหน่ายโตโยต้ากล่าว
ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ