Print this page

CPF ชูแนวคิด Food For Tomorrow ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดตัวอาหาร 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ภายใต้แนวคิด Food For Tomorrow รองรับกลุ่มผู้บริโภคยุค New Normal พร้อมนำเทคโนโลยี Smart farm ยกระดับการผลิตมาตฐานอาหารปลอดภัย สอดรับกับวิสัยการเป็น “ครัวของโลกที่ยั่งยืน”

นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF เปิดเผยว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเน้นเพื่อสุขภาพมากขึ้น เน้นอาหารที่ดีต่อสุขภาพ สะอาด ปลอดเชื้อ ไม่ปนเปื้อน และถูกสุขอนามัยความปลอดภัย การเข้าถึงอาหารจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงอาหารในยุคนิวนอร์มอล ต้องง่าย สะดวกในการปรุงและทาน รวมถึงคุ้มค่ากับราคาที่จ่าย บริษัทฯจึงเกิดแนวคิด Food For Tomorrow เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุค New Normal

หมูชีวา "Cheeva Pork"

โดยผลิตภัณฑ์อาหารภายใต้แนวคิด FOOD FOR TOMORROW ประกอบด้วย 3 กลุ่มหลัก คือ กลุ่มแรกคือ INNOVATION + WELLNESS FOOD & BEVERAGES ซึ่งเป็นนวัตกรรมและการวิจัยพัฒนาตลอดห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่อาหารสัตว์ (Feed) ฟาร์มป้องกันโรค (Farm) รวมถึงนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (Food) ภายใต้แนวคิด “Food as a Medicine อาหารที่เพิ่มสารอาหารจากธรรมชาติ ช่วยบำรุงสุขภาพและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย อาทิ ผลิตภัณฑ์หมูชีวา (Cheeva Pork)"

หมูชีวา "Cheeva Pork" ได้รับรางวัลชนะเลิศสุดยอดสินค้านวัตกรรมระดับโลก จากงาน Thaifex 2020 เป็นเนื้อหมูนวัตกรรมที่มีโอเมก้า 3 มากกว่าเนื้อหมูปกติ 2.5 เท่า

“จากการเลี้ยงด้วยอาหารจากธรรมชาติที่อุดมด้วยโอเมก้าอย่าง Flax Seed, สาหร่ายทะเลธรรมชาติ และน้ำมันปลาทะเลลึก ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดหัวใจ และยังปลอดสาร ปลอดภัย ไม่ใช้ยาปฏิชีวนะ ตลอดการเลี้ยงดู รับรองโดย NSF 

ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แบรนด์ FRESH, DEEP และ INNOWENESS

โดยผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ แบรนด์ INNOWENESS ที่ประกอบด้วยเครื่องดื่มเบต้ากลูแคน IMU ผลิตจากเห็ดสกัดธรรมชาติ เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ลดอาการภูมิแพ้ และหวัด เครื่องดื่มแอลธีอานิน DEEP ที่สกัดจากยอดชาเขียวจากญี่ปุ่น ช่วยปรับสมดุลคลื่นสมอง ช่วยให้นอนหลับลึก ตื่นสด ชื่น ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดก่อนนอน และเครื่องดื่ม FRESH สกัดจากน้ำทับทิม และชาเขียว ช่วยปลุกสมอง คืนความสดชื่น ระหว่างวัน ผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มทั้ง 3 ชนิดนี้ สามารถเก็บรักษาคุณค่าทางอาหารในอุณหภูมิห้องปกติได้ถึง 1 ปี ซึ่งผลิตภัณฑ์ Chicken Rib มิติใหม่ของนวัตกรรมการผลิตเนื้อไก่แบบ Special Cut ที่สร้างประสบการณ์ใหม่ในการกินเนื้อไก่ ให้อร่อยเพลิน ด้วยเนื้อเต็มคำ นุ่ม ฉ่ำ และกระดูกเดียว ทานง่าย ทั้งไก่สด และแบบหมักพร้อมปรุง

ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่สองคือ READY-TO-EAT FOOD ซีพีเอฟนำอาหารพร้อมทานหลากหลาย ทั้งเมนูไก่ เกี๊ยวกุ้ง สปาเก็ตตี้ เมนูข้าวแกง หรือ Snack Food และเมนูเพื่อสุขภาพ High Fiber-Low Calories ที่เหมาะสำหรับการเก็บที่บ้าน ง่ายต่อการอุ่นพร้อมทาน รสชาติความอร่อยลงตัว และมั่นใจเรื่องการผลิตที่ปลอดภัย ปลอดเชื้อ โดยอาหารทั้งหมดถูกปรุงและแพ็คจากโรงงานที่ได้มาตรฐานระดับโลก

 

ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่มที่สาม คือ FRESH DESTINATION MEAT โดยเน้นโปรตีนเนื้อสัตว์เป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งการเลือกเนื้อสัตว์เพื่อการบริโภคจะมีความพิถีพิถันมาก ด้วยมาตรฐานการผลิต เน้นความปลอดภัย ปลอดเชื้อ ความสดใหม่ของวัตถุดิบ อาทิ เนื้อไก่ เนื้อหมู กุ้ง ไข่ ปลา และเนื้อวัวที่มีคุณภาพ ซึ่ง CPF ให้ความสำคัญในสิ่งเหล่านี้อย่างมากประกอบกับบริการ e-Commerce และการจัดส่งแบบ Home Delivery สอดรับกับวิสัยการเป็น “ครัวของโลกที่ยั่งยืน”

ด้านนายสัตวแพทย์ พยุงศักดิ์ สมยานนทนากุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านมาตรฐานอาหารสากล CPF ในฐานะประธานคณะกรรมการสวัสดิภาพสัตว์ เปิดเผย ปัจจุบันผู้บริโภคมีแนวโน้มปรุงอาหารทานเองที่บ้านมากขึ้น จึงต้องคำนึงถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่ต้องปลอดภัย CPFในฐานะผู้นำธุรกิจด้านเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารชั้นนำ จึงมุ่งมั่นสร้างสรรค์มูลค่าเพิ่มของสินค้าที่เหนือกว่า บนพื้นฐานของการพัฒนาอย่างยั่งยืน และใส่ใจในทุกขั้นตอน โดยคำนึงถึงหลักสวัสดิภาพสัตว์ตลอดกระบวนการผลิต ลดการใช้ยาปฏิชีวนะ พร้อมทุ่มเทวิจัยศึกษาหาแนวทางและนวัตกรรมต่างๆ เพื่อส่งมอบอาหารที่ปลอดภัยสูงสุด และดีต่อสุขภาพของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง

 CPF ได้ใช้หลักสวัสดิภาพสัตว์ในการเลี้ยงไก่เนื้อมาเป็นระยะเวลามากว่า 31 ปี นับตั้งแต่ปี 2532 โดยนำเทคโนโลยีโรงเรือนระบบปิดปรับอากาศ หรือโรงเรือนอีแวปพร้อมอุปกรณ์อัตโนมัติมาใช้เป็นรายแรกของภูมิภาคอาเซียน ช่วยให้ไก่มีความเป็นอยู่ที่สุขสบาย ได้รับอาหารและน้ำอย่างเพียงพอ และแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้อย่างอิสระ ส่งผลช่วยให้ไก่มีสุขภาพพื้นฐานดี จึงไม่จำเป็นใช้ยาปฏิชีวนะหรือฮอร์โมนเพื่อเร่งการเจริญเติบโตตลอดการเลี้ยง ขณะเดียวกัน ซีพีเอฟยังเป็นภาคเอกชนไทยรายแรกนอกเขตสหภาพยุโรปที่ได้รับรองมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั่วโลก โดยเฉพาะในสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นอีกด้วย

ปัจจุบัน กิจการซีพีเอฟในประเทศไทยและต่างประเทศ มีเจ้าหน้าที่ด้านสวัสดิภาพสัตว์กำกับดูแลฟาร์มไก่เนื้อทุกแห่งคอยตรวจสอบและให้คำแนะนำ เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ทุกฟาร์มสามารถปฏิบัติตามแนวทางสวัสดิภาพสัตว์ถูกต้องและต่อเนื่อง โดยนับเป็นครั้งแรกของโลก ที่ภาคเอกชน ร่วมกับ AW Training มหาวิทยาลัยบริสตอล แห่งสหราชอาณาจักร ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านสวัสดิภาพสัตว์ปีก

ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้นำเทคโนโลยี Smart farm มาช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและส่งเสริมสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์มไก่เนื้อ โดยติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ และระบบอัตโนมัติในการประมวลผลข้อมูลในฟาร์ม และช่วยควบคุมการจัดการฟาร์ม เพื่อให้ไก่ได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่ดีและเหมาะสมตลอดช่วงการเลี้ยง พร้อมกับสร้างเสริมให้ไก่มีความสุขด้านจิตใจ จากการแสดงออกพฤติกรรมธรรมชาติด้วยการเพิ่มวัสดุสำหรับจิกเล่นไว้ในโรงเรือนหรือมีคอนไว้ให้ไก่ปีนป่าย รวมถึงได้พัฒนาเนื้อไก่พรีเมียม “Benja Chicken” จากแบรนด์ยูฟาร์ม เป็นผลิตภัณฑ์ไก่สดรายแรกของโลกที่เลี้ยงด้วยข้าวกล้อง ซึ่งเลี้ยงตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ เป็นผลิตภัณฑ์ไก่ 100% จากธรรมชาติ ปลอดสาร เป็นผลิตภัณฑ์ไก่สดที่ได้รับการรับรองจาก NSF สถาบันระดับโลก ว่า ปราศจากยาปฏิชีวนะ ไม่มีการใช้ฮอร์โมนตลอดการเลี้ยงดู และเป็นนวัตกรรมอาหารที่ได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ

โดย นายสัตวแพทย์ ดำเนิน จตุรวิธวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ธุรกิจสุกรของซีพีเอฟ กล่าวว่า ธุรกิจสุกรของซีพีเอฟ ได้เดินหน้าปรับเปลี่ยนโรงเรือนสำหรับเลี้ยงสุกรแม่พันธุ์อุ้มท้องเป็นระบบการเลี้ยงคอกขังรวม เพื่อเป็นการให้อิสระแม่พันธุ์อุ้มท้องในการเคลื่อนไหวและมีปฏิสัมพันธ์กับสุกรตัวอื่นๆ ทำให้แม่สุกรรู้สึกผ่อนคลาย ไม่เครียด และสามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ โดยตั้งเป้าภายในปี 2568 ฟาร์มแม่พันธุ์อุ้มท้องของซีพีเอฟในประเทศไทยจะเป็นคอกขังรวมทั้งหมด และในปี 2571 ฟาร์มสุกรอุ้มท้องของซีพีเอฟทั่วโลกจะเป็นระบบคอกขังรวม 100%

นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังพยายามลด ละ เลิก การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของสุกรทั้งในรูปแบบของการทำหมัน การตัดหรือกรอฟัน และการตัดหาง ตามหลัก 3’Ts (No Testicles, No Teeth Clipping and No Tail Docking) พร้อมนำของเล่น เช่น ลูกบอล เชือก มาให้หมูได้กัดเล่น เพื่อลดความเครียด และสอดคล้องตามพฤติกรรมธรรมชาติที่หมูชอบสำรวจหาอาหารและเคี้ยวเล่น การเสริมของเล่นจะช่วยลดพฤติกรรมการกัดกันเองจนบาดเจ็บ ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา ธุรกิจสุกรในประเทศไทยสามารถยกเลิกการตอนลูกสุกรกว่า 700,000 ตัว ยกเลิกการกรอเขี้ยวลูกสุกรมากกว่า 2 ล้านตัว ยกเลิกตัดใบหูมากกว่า 3 ล้านตัว และทยอยยกเลิกการตัดหางลูกสุกรกว่า 3,000 ตัว ขณะที่ ธุรกิจสุกร ในประเทศมาเลเซียและไต้หวัน ไม่มีการตัดหรือกรอฟันแล้ว 100%

ส่วนธุรกิจสัตว์น้ำ บริษัทฯได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้ ทำให้แม่พันธุ์กุ้งสามารถสร้างและวางไข่ได้ตามธรรมชาติ จึงไม่จำเป็นต้องตัดก้านตา (Female Non Eyestalk Ablation) รวมทั้งการนำโปรไบโอติกมาใช้ ช่วยให้กุ้งมีสุขภาพแข็งแรงขึ้น และช่วยปรับปรุงคุณภาพน้ำให้ดีขึ้น จึงทำให้ไม่ต้องใช้ยาปฏิชีวนะอีกด้วย

นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการวัดผลการส่งเสริมสวัสดิภาพของสัตว์ (Welfare Outcome Measures :WOMs) เน้นการประเมินสุขภาพสัตว์ทั้งร่างกายและจิตใจ ของฟาร์มเลี้ยงสัตว์ทั้งในประเทศไทยและกิจการต่างประเทศ โดยให้ความสำคัญกับปัจจัยหลัก คือ อัตราการเลี้ยงรอด อัตราการเข้าคลอด จำนวนแม่หมูที่เลี้ยงในคอกขังรวม จำนวนหมูที่ไม่ตอน และไม่ตัดหาง ระยะเวลาการขนส่ง และการทำให้สลบก่อนการชำแหละ การแสดงออกพฤติกรรมทางธรรมชาติ เป็นต้น เป็นการสร้างมาตรฐานในอุตสาหกรรมการอุตสาหกรรมการผลิตอาหารให้คงความเป็นผู้นำในระดับสากลอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้คนไทยได้บริโภคอาหารปลอดภัย ตามมาตรฐานสากล มีสุขภาพที่ดี และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก



รับข่าวสารก่อนใคร ฉับใวถึงมือคุณ
เพิ่มเราเป็นเพื่อน แอดไลน์ @610nusdc
เพิ่มเพื่อน

Rate this item
(1 Vote)
Last modified on Wednesday, 14 October 2020 06:32
สมิตา ตั้งชินคุปต์

Author : ติดตามและเขียนข่าวด้าน Consumer Product ความเคลื่อนไหว การตลาด ธุรกิจ เทรนด์ หรือเรื่องราวของคนในวงการการตลาดฯ ตลอดจนงานสร้างสรรสินค้า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ

Latest from สมิตา ตั้งชินคุปต์

Related items

X

ลิขสิทธิ์ของ IM

ห้ามผู้ใดทำซ้ำ คัดลอก ลอกเลียน ดัดแปลง ปลอมแปลง จัดเผยแพร่ เรียกดึงข้อมูล บันทึก ส่งผ่าน หรือกระทำการใดๆ ที่ละเมิดสิทธิและทรัพย์สินทางปัญญาของ IM